Pre-degree พรีดีกรี ระบบสะสมหน่วยกิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงล่วงหน้า

ช่องทาง และกำหนดวันรับสมัคร

มหาวิทยาลัยเปิดรับสมัคร ระดับปริญญาตรี(ภาคปกติ)และพรีดีกรีพร้อมกัน ส่วนกลางเปิดรับสมัครปีการศึกษาละ 2 ครั้ง คือ ภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 | ส่วนภูมิภาคเปิดรับสมัครเฉพาะภาคเรียนที่ 1 เท่านั้น ผู้สนใจสมัครเรียนที่มีวุฒิจบการศึกษาแล้ว สามารถสมัครเป็นนักศึกษาภาคเรียนใดก็ได้ ช่องทางใดก็ได้ ตามวันเวลาที่กำหนด และความสะดวกดังต่อไปนี้

สมัครผ่านระบบออนไลน์ ภาค 1/2567

วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2567
ขั้นตอนการสมัคร

สมัครด้วยตนเองที่มหาวิทยาลัย ง่ายที่สุด!

วันที่ 16-19 พฤษภาคม และ 27-30 มิถุนายน 2567
*ง่ายที่สุด*

สมัครด้วยตนเอง ง่าย เร็ว จบ ครบ เป็นนักศึกษารามฯทันที!

สมัครผ่านไปรษณีย์

วันที่ 1 เมษายน – 21 มิถุนายน 2567
ขั้นตอนสมัครทางไปรษณีย์
  • ใบสมัคร และระเบียบการรับสมัคร
ใบสมัคร
การรับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี(ภาคปกติ) และพรีดีกรี ในครั้งนี้ ไม่มีการจำหน่ายใบสมัคร ผู้สมัครด้วยตนเองที่มหาวิทยาลัยรับใบสมัครได้ที่จุดรับสมัคร, ผู้สมัครผ่านระบบออนไลน์ กรอกใบสมัครในระบบ
ระเบียบการรับสมัครฯ การรับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี(ภาคปกติ) และพรีดีกรี ในครั้งนี้ ไม่มีการจำหน่ายระเบียบการรับสมัคร โดยผู้สมัครสามารถดาวน์โหลดระเบียบการรับสมัครฯ ซึ่งมีรายละเอียดต่าง ๆ ประกอบด้วย คุณสมบัติผู้สมัคร, หลักฐานการสมัคร, อัตราค่าใช้จ่าย, สาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร, เกณฑ์การเทียบโอนหน่วยกิต และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ กดลิงก์ต่อไปนี้เพื่อดาวน์โหลด
  • ทำความเข้าใจเรื่อง ส่วนกลาง/ส่วนภูมิภาค กันก่อน
หลักสูตร ปริญญาตรี (ภาคปกติ) ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดการเรียนการสอน 2 ส่วน คือส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้สนใจต้องเลือกสมัครให้ตรงตามความต้องการตั้งแต่แรก เปรียบเทียบความแตกต่างได้ ดังตารางต่อไปนี้
ส่วนกลางส่วนภูมิภาค
ที่ตั้ง: มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ มี 2 วิทยาเขต คือ หัวหมาก(วิทยาเขตหลัก) และบางนาที่ตั้ง: จัดตั้งศูนย์บริการนักศึกษาในจังหวัดต่างๆเรียกว่า “สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัด…” มีทั้งสิ้น 23 แห่ง
มีที่ไหนบ้างคลิก
สาขาวิชาที่รับสมัคร: 9 คณะ มากกว่า 60 สาขาวิชาสาขาวิชาที่รับสมัคร: 4 คณะ 4 สาขาวิชา
ค่าหน่วยกิต: 25 บาท/หน่วยกิตค่าหน่วยกิต: 50 บาท/หน่วยกิต
สถานที่เรียน: บรรยายสดที่ห้องเรียน รามฯ1 และ รามฯ2 และวิดีโอออนไลน์กลุ่มวิชาศึกษาทั่วไปสถานที่เรียน: เทปบรรยายที่ห้องเรียนสาขาวิทยบริการฯ และวิดีโอออนไลน์ทุกวิชา
สถานที่สอบ: สอบที่กรุงเทพฯ ม.รามคำแหง หัวหมาก(รามฯ1) และ บางนา(รามฯ2) เท่านั้นสถานที่สอบ: สอบที่สาขาวิทยบริการฯ และศูนย์สอบ จำนวน 40+ แห่งทั่วประเทศ เลือกสอบที่ไหนก็ได้(ยกเว้นกรุงเทพฯ)
มีที่ไหนบ้างคลิก
แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ… ตอบแบบสอบถามเพื่อรับคำแนะนำ 🙂 คลิกที่นี่

ปกติแล้ว…ชีวิตเด็กมหาลัยเริ่มต้นอายุเท่าไหร่ ?

หลายๆคนคงจะเริ่มนับ 1 ในชีวิตมหาวิทยาลัยเมื่อจบ ม.6 ตอนที่อายุ 18-19 ปี มันคือการเปลี่ยนระบบการเรียนจากโรงเรียน/วิทยาลัยให้ก้าวเข้าสู่ระบบมหาวิทยาลัย ที่ต้องใช้ความรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก แต่จะดีกว่าไหมถ้าจะก้าวเข้าสู่ระบบการเรียนแบบมหาวิทยาลัยควบคู่ขณะกำลังเรียนชั้น ม.4/ปวช.

จะดีไหม…ถ้าก้าวสู่มหาวิทยาลัยตั้งแต่ตอนนี้

เริ่มนับ 1 ในชีวิตมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 16 ด้วยระบบพรีดีกรี กับการเรียนควบคู่ชั้นม.ปลาย(หรือเทียบเท่า)ไปพร้อมกับการสอบสะสมหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มต้นก่อนก็ถึงเส้นชัยก่อน

พรีดีกรี คืออะไร ?

พรีดีกรี เป็นระบบการเรียนเพื่อสอบสะสมหน่วยกิตในระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยรามคำแหงแบบล่วงหน้า เปิดให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นแล้ว(จบ ม.3 แล้ว) สามารถสมัครเรียนสะสมหน่วยกิตของแผนการเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาที่สนใจจะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในอนาคต หากสอบสะสมหน่วยกิตได้มากน้อยเพียงใด ก็ช่วยลดระยะเวลาการเรียนระดับปริญญาตรีในอนาคตได้ เพราะได้สอบสะสมหน่วยกิตล่วงหน้าไว้แล้ว

รูปแบบการเรียน

รูปแบบการเรียนระบบพรีดีกรีเหมือนกับนักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงทุกประการ เช่น ระบบปฏิทินการศึกษา, สื่อการเรียน, ข้อสอบ, เกณฑ์การวัดผล ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน รู้จักการวางแผนการเรียนและการบริหารเวลาของตนเองอีกด้วย

นักศึกษาพรีดีกรีมักอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจบทเรียนด้วยเอง ไม่จำเป็นต้องเข้าฟังบรรยายที่มหาวิทยาลัย และยังมีสิทธิ์เข้าสอบไล่ปลายภาคที่มหาวิทยาลัยตามปกติ

พรีดีกรี เหมาะกับใคร ?

พรีดีกรี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย(หรือเทียบเท่า) ได้แก่ นักเรียน ม.ปลาย สายสามัญ, นักศึกษาระบบ กศน. ม.ปลาย, รวมไปถึงนักศึกษา ปวช.-ปวส. และมีความสนใจที่จะเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เช่น นักเรียนชั้น ม.4 เมื่อสมัครเรียนพรีดีกรีแล้ว มีโอกาสในการสะสมหน่วยกิตได้ยาวนานถึง 3 ปีจนกว่าจะจบชั้น ม.6 เมื่อมีเวลามากก็มีโอกาสสะสมหน่วยกิตได้มากตามไปด้วย
  • เรียนจบ ม.3 แล้ว และกำลังเรียน ม.ปลาย (กำลังเรียน ม.4, 5, 6)
  • เรียนจบ ม.3 แล้ว และกำลังเรียน กศน. ม.ปลาย
  • เรียนจบ ม.3 แล้ว และกำลังเรียน ปวช. (กำลังเรียน ปวช.1,2,3) หรือ ปวส. (กำลังเรียน ปวส.1,2,3)
  • เป็นผู้ที่วางแผนเรียนระดับปริญญาตรีที่ ม.รามคำแหง ในอนาคต
  • เรียนจบ ม.3 แล้ว แต่ยังไม่วางแผนเรียน ม.ปลาย หรือเทียบเท่า ให้ไปวางแผนการเรียนระดับ ม.ปลาย(หรือเทียบเท่า)ก่อน

ทำไมต้องเรียน ม.ปลาย(หรือเทียบเท่า) ควบคู่กับพรีดีกรี

ผู้ที่มีสถานะเป็นนักศึกษาพรีดีกรี ไม่สามารถแจ้งจบการศึกษาเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ โดยผู้ที่มีสิทธิ์แจ้งจบการศึกษาและรับปริญญาบัตรได้คือผู้ที่มีสถานะเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ดังนั้น นักศึกษาพรีดีกรีจะต้องเลื่อนสถานะตนเองให้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย(หรือเทียบเท่า) หากไม่เรียนชั้น ม.ปลาย(หรือเทียบเท่า)ก็จะไม่มีสิทธิ์เลื่อนสถานะเป็นระดับปริญญาตรีเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร

พรีดีกรี คือ ช่วงเวลาค้นหาตัวเอง

“…ปีแรกๆชอบรัฐศาสตร์ ปีหน้าอาจจะเปลี่ยนใจชอบสื่อสารมวลชนขึ้นมาก็ได้นี่นา…”
การเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดโอหาสให้ทุกคนได้มีเวลาค้นหาตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการเรียน และนักศึกษาพรีดีกรีเป็น “นักศึกษาพรีดีกรี” ไม่ใช่นักศึกษาของคณะใดคณะหนึ่ง แต่ตอนสมัครเรียนเขาจะให้เราเลือกคณะไปแล้วนี่นา? ใช่แล้ว การที่มหาวิทยาลัยให้เราเลือกคณะตั้งแต่ตอนที่สมัคร ก็เพราะมหาวิทยาลัยจะได้เลือกวิชาในคณะที่เราสนใจมาให้เราเรียนและสอบในภาคเรียนนี้ มันเป็นการอำนวยความสะดวกให้ตอนสมัครครั้งแรกเท่านั้น
สมมติ ถ้าตอนนี้ชอบรัฐศาสตร์และมุ่งมั่นว่าในอนาคตก็จะเรียนคณะรัฐศาสตรแน่ ๆ เราก็จะหยิบวิชาของรัฐศาสตร์มาสอบสะสมไว้ในระบบพรีดีกรีเรื่อย ๆ ไปก่อน มันจะเป็นตัวช่วยให้เราเรียนจบรัฐศาสตร ตอนเลื่อนสถานะเป็นนักศึกษาปริญญาตรีได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าเรียนไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาล่ะ ? ก็อย่างที่บอกว่า “พรีดีกรีไม่สังกัดคณะใดๆ” ถ้าเรียนอยู่ดี ๆ เราไม่ชอบรัฐศาสตร์แล้ว แต่หันไปชอบสื่อสารมวลชนแทน เราก็เปลี่ยนไปหยิบวิชาของคณะสื่อสารมวลชนมาสอบสะสมต่อได้เลย ไม่ต้องแจ้งใคร ไม่ต้องแจ้งมหาวิทยาลัย แค่นี้เอง “…ปีแรกๆชอบรัฐศาสตร์ ปีหน้าอาจจะเปลี่ยนใจชอบสื่อสารมวลชนขึ้นมาก็ได้นี่นา…”

เรียนพรีดีกรี จะได้รับปริญญาไหม ?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า นักศึกษาระบบพรีดีกรีไม่สามารถแจ้งจบการศึกษาเพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ จนกว่าจะเลื่อนสถานะจากพรีดีกรีให้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีเสียก่อน ซึ่งหน่วยกิตที่ได้สะสมไว้ จะทำให้เราได้รับปริญญาไวกว่าเพื่อน ๆ
ตัวอย่าง นาย A เป็นนักเรียนชั้น ม.4 อายุ 16 ปี สมัครเรียนในแผนการเรียนคณะนิติศาสตร์(แผนการเรียน 140 หน่วยกิต) ผ่านไป 3 ปี สามารถสอบสะสมหน่วยกิตได้ 100 หน่วยกิต(วงกลมสีชมพู) สอบสะสมอีกเพียง 40 หน่วยกิต ก็จะเรียนครบตามแผนการเรียนแล้ว และในตอนนี้เขาก็เรียนจบชั้น ม.6 พอดี จึงทำการเลื่อนสถานะตนเองให้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีและเทียบโอนหน่วยกิตที่สะสมได้(วิธีการเลื่อนสถานะตนเองคือ ลาออกจากพรีดีกรี และยื่นวุฒิจบ ม.6 เพื่อสมัครเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีพร้อมเทียบโอนหน่วยกิตจำนวน 100 หน่วยตามไปด้วย) ในตอนนี้นาย A เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว แล้วยังมีหน่วยกิตสะสมถึง 100 หน่วยกิต เขาเพียงสอบสะสมหน่วยกิตที่เหลือ(วงกลมสีน้ำเงิน)ให้ครบ ก็จะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีได้ และด้วยหน่วยกิตที่เหลือเพียง 40 หน่วยกิต เขาสามารถสอบสะสมทั้งหมดได้ภายใน 1 ปีการศึกษา เขามีโอกาสจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุ 19 ปีได้เลย
  • เรียนอย่างไร ?
รูปแบบการเรียน ระบบพรีดีกรี เหมือนกับ ระดับปริญญาตรี (ภาคปกติ) ทุกประการ คือ ไม่บังคับเข้าชั้นเรียน จัดรูปแบบการศึกษาแบบ Hybrid คือ อาจารย์จัดบรรยายในห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยเป็นหลัก บรรยายเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 7.20-17.20 น. และมีการบรรยายสรุปเสาร์-อาทิตย์เฉพาะนักศึกษาส่วนภูมิภาค สรุปรูปแบบการเรียนได้ดังนี้
  • ฟังบรรยายที่ห้องเรียน
    มหาวิทยาลัยมีห้องบรรยายทุกระบวนวิชา นักศึกษาสามารถเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อเข้าฟังบรรยายได้
  • หนังสือ/ตำราเรียน ซื้อเอง-อ่านเอง
    ตำรา/หนังสือเรียน จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    – สั่งซื้อออนไลน์ที่ RU-Press Bookstore
    – ซื้อด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์หนังสือ ม.รามคำแหง อาคารสำนักพิมพ์ ชั้น 3 ดูวันเปิดจำหน่าย คลิกที่นี่
  • ถ่ายทอดสดและวิดีโอย้อนหลัง
    – Cyber Cloassroom ถ่ายทอดสดจากห้องเรียน*
    – Course on-demand วิดีโอการบรรยายย้อนหลัง
    *
    *ส่วนภูมิภาค ดูสดและย้อนหลังได้ทุกวิชา / ส่วนกลาง ดูสดและย้อนหลังได้เฉพาะกลุ่มวิชาศึกษาทั่วไปเท่านั้น
โปรดทราบ: 
เมื่อผู้สมัครมีสถานะการเป็นนักศึกษาแล้ว สามารถเข้าฟังบรรยายที่ห้องเรียน และใช้สื่อการถ่ายทอดสดและวิดีโอย้อนหลังได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เนื่องจากค่าสมัครและลงทะเบียนเรียนครอบคลุมสิทธิ์การใช้งานแล้ว ยกเว้น สื่อประเภท หนังสือเรียน/ตำราเรียน และวิดีโอบรรยายสรุปการสอนจากสำนักเทคโนโลยีการศึกษา นักศึกษาต้องจัดซื้อด้วยตนเอง จะซื้อหรือไม่ก็ได้ ไม่บังคับ

เริ่มก่อน = สะสมได้มากกว่า

การเรียนระบบพรีดีกรีเหมือนเป็นการออมเงิน ถ้าออมเงินตั้งแต่ทุกๆเดือนต้ังแต่มกราคม เงินสะสมก็คงมากกว่าคนที่เริ่มออมเงินเดือนตุลาคมแน่นอน ก็เหมือนกับการสะสมหน่วยกิตของระบบพรีดีกรี เช่น ถ้าสมัครเรียนพรีดีกรีขณะที่กำลังเรียนชั้นอยู่ ม.4 หรือ ปวช.1 ก็จะมีระยะเวลาสะสมหน่วยกิตยาวถึง 3 จนกว่าจะเลื่อนสถานะจบชั้น ม.6 หรือ ปวช.3 , แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่กำลังเรียน ม.5-6 หรือ ปวช.2-3 จะสมัครไม่ได้นะ คุณสามารถสมัครพรีดีกรีได้ แต่ระยะเวลาสะสมหน่วยกิจอาจน้อยกว่าคนที่เริ่มต้นก่อนเท่านั้นเอง

ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรียนระบบพรีดีกรี

ค่าใช้จ่ายการสมัครและในระหว่างการเรียน 1. ค่าใช้จ่ายการสมัครเป็นนักศึกษาพรีดีกรีและลงทะเบียนเรียนภาคเรียนแรก(ต้องชำระในวันสมัครทันที)
ส่วนกลาง : ไม่เกิน 3,100 บาท
ส่วนภูมิภาค : ไม่เกิน 4,080 บาท
(รายละเอียดแบบแจกแจงค่าใช้จ่าย: คลิก)

2. ค่าลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนต่อ ๆ ไป 
ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนเทอมต่อๆไป ประกอบด้วย ค่าหน่วยกิต หน่วยละ 50 บาท, ค่าบำรุงการศึกษา, ค่าบริการสารสนเทศ, ค่าธรรมเนียมการสอบ(เฉพาะส่วนภูมิภาค) รวมแล้วประมาณค่าใช้จ่ายได้ดังนี้
ส่วนกลาง : สูงสุดไม่เกิน 1,700 บาท
ส่วนภูมิภาค : สูงสุดไม่เกิน 2,200 บาท

*อัตราค่าใช้จ่ายการลงทะเบียนเรียนขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยกิตที่ลงทะเบียนเรียน หากลงทะเบียนหน่วยกิตในภาคเรียนนั้นๆมาก ค่าใช้จ่ายจะมากตามไปด้วย ซึ่งมหาวิทยาลัยกำหนดให้ลงทะเบียนเรียน อย่างน้อย 9 หน่วยกิต/ภาคเรียน เท่านั้น แต่นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนได้สูงสุดถึง 21 หน่วยกิต
ค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนสถานะให้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ค่าใชัจ่ายนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ นักศึกษาพรีดีกรีเรียนจบชั้นม.ปลาย(หรือเทียบเท่า)เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการลาออกจากระบบพรีดีกรี และนำวุฒิการศึกษาจบชั้น ม.ปลาย(หรือเทียบเท่า) มาสมัครเป็นนักศึกษา ระดับปริญญาตรี ภาคปกติ พร้อมกับเทียบโอนหน่วยกิตที่สะสมได้เข้าสู่ระบบปริญญาตรีด้วย (การเปลี่ยนสถานะทำได้ในช่วงที่มหาวิทยาลัยเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่) แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ
1. ค่าใช้จ่ายการสมัครเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีและลงทะเบียนเรียนภาคเรียนแรก(ต้องชำระในวันสมัครทันที)
ส่วนกลาง : ไม่เกิน 3,750 บาท
ส่วนภูมิภาค : ไม่เกิน 4,730 บาท
2. ค่าเทียบโอนหน่วยกิตจากระบบพรีดีกรีเข้าสู่ระบบปริญญาตรี(ชำระภายหลังได้)
คิดอัตราค่าเทียบโอนหน่วยกิตละ 50 บาท เช่น หากสะสมระหว่างเรียนพรีดีกรีได้ 60 หน่วยกิต จะเป็นเงินค่าเทียบโอน 60×50= 3,000 บาท

‘พรีดีกรี’ ทางด่วนไปสู่ความสำเร็จ

อดีตนักศึกษาระบบพรีดีกรี ที่สมัครเรียนและสะสมหน่วยกิตล่วงหน้า
และจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุยังน้อย

สิรพิชญ์ สินมา (พิงค์)

สะสมหน่วยกิตระบบพรีดีกรี และเทียบโอนเป็นนักศึกษาภาคปกติ และจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ เมื่ออายุอายุ 18 ปี, เนติบัณฑิตยสภา เมื่ออายุ 19 ปี, จบปริญญาโท 2 ใบ จาก University of San Diego และ California Western School of Law สหรัฐอเมริกา เมื่ออายุ 21 ปี, ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา

ประวีณ์ธิดา จารุนิล

เรียนพรีดีกรีตั้งแต่ ม.4 สะสมหน่วยกิตได้ 128 หน่วยกิต เทียบโอนเป็นนักศึกษาภาคปกติและเรียนต่ออีก 1 เทอมก็จบปริญญาตรีเมื่ออายุ 18 ปี และเรียนต่อปริญญาโทสาขากฎหมายมหาชน ม.รามคำแหง และจบการศึกษาเมื่ออายุ 21 ปี

พันจ่าอากาศโท
ดร.สุวินท์ รักสลาม

เรียนพรีดีกรีในระหว่างเรียนที่โรงเรียนจ่าอากาศ และเทียบโอนเป็นนักศึกษาภาคปกติ และจบปริญญาตรี เมื่ออายุ 18 ปี, ต่อปริญญาโท(บริหารรัฐกิจ) ม.รามคำแหง ขณะอายุ 20 ปี และจบปริญญาดุษฎีบัณฑิต(การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ม.รามคำแหง) เมื่อปี 2556 เป็น ดร. อายุ 23 ปี

อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ (ทับทิม)

นักแสดงจากช่อง 7 สะสมหน่วยกิตระบบพรีดีกรีตอนอยู่ชั้น ม.4 และเรียนต่อปริญญาตรีภาคปกติจนจบ ปัจจุบันทับทิมยังจบปริญญาโท ม.รามคำแหง อีกด้วย

ร.ต.อ.ทศพร รุ่งเรืองศุภรัตน์

สะสมหน่วยกิตระบบพรีดีกรี เทียบโอนเป็นนักศึกษาภาคปกติและจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ในวัย 19 ปี, เนติบัณฑิตยสภา เมื่ออายุ 20 ปี ปัจจุบันรับราชการตำรวจ

ภาณุวุฒิ วงศ์จีน

อดีตนักศึกษาพรีดีกรี สาขาวิทยบริการฯ จ.เชียงราย สมัครเรียนพรีดีกรีตั้งแต่ชั้น ม.4 (โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม) สะสมหน่วยกิตได้ 136 หน่วยกิต และเทียบโอนเป็นนักศึกษาภาคปกติเรียนต่อเพียง 1 เทอม ก็จบปริญญาตรี เมื่ออายุ 18 ปี

  • คำถามที่พบบ่อย ? (FAQ)

หลักฐานการสมัครแปะลิงก์อยู่ด้านบนของหน้าเว็บนี้

การสมัครเข้าเรียนระบบพรีดีกรี ไม่ต้องสอบคัดเลือก เมื่อดำเนินการสมัครเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว ผู้สมัครจะมีสถานภาพการเป็นนักศึกษาพรีดีกรีมหาวิทยาลัยรามคำแหงทันที
เนื่องจากการเรียนพรีดีกรีเป็นการเรียนควบคู่กับระดับชั้นม.ปลาย(หรือเทียบเท่า) ดังนั้นนักศึกษาพรีดีกรีต้องให้ความสำคัญกับการเรียนที่โรงเรียน ศูนย์การศึกษากศน. หรือวิทยาลัยของตนเองเป็นหลัก และจัดลำดับความสำคัญของการเรียนพรีดีกรีรองลงมา โดยนักศึกษาพรีดีกรีไม่จำเป็นต้องเข้าฟังบรรยายที่มหาวิทยาลัย และอาจใช้สื่อการเรียนต่าง ๆ ตามความสะดวก ดังนี้
  • บรรยายในชั้นเรียน
    มหาวิทยาลัยจัดห้องสำหรับฟังบรรยายทุกกระบวนวิชาตามตารางการบรรยาย

    นักศึกษาส่วนกลาง ฟังบรรยายสดที่ ม.รามคำแหง หัวหมากและบางนา
    นักศึกษาส่วนภูมิภาค ฟังเทปบรรยายที่ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ 23 แห่งทั่วประเทศ
  • หนังสือ/ตำราเรียน ซื้อเอง-อ่านเอง
    ตำรา/หนังสือเรียน จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    – สั่งซื้อออนไลน์ที่ RU-Press Bookstore
    – ซื้อด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์หนังสือ ม.รามคำแหง อาคารสำนักพิมพ์ ชั้น 3 ดูวันเปิดจำหน่ายคลิก
  • วิดีโอการบรรยายย้อนหลัง
    ถ้าไม่ว่าง/ไม่สะดวกเข้าห้องเรียน ก็ยังใช้สื่อ Cyber Classroom ถ่ายทอดสดการบรรยายจากห้องเรียน เข้าใช้งานได้ที่ CyberClassroom.ru.ac.th หรือ Course on-demand วิดีโอคำบรรยายย้อนหลัง ให้บริการรูปแบบคลิปวิดีโอ ผ่านเว็บไซต์ www.m-learning.ru.ac.th

    หมายเหตุ ส่วนกลางให้บริการเฉพาะกลุ่มวิชาศึกษาทั่วไป, ส่วนภูมิภาคเรียนออนไลน์ได้ 100%
โปรดทราบ: เมื่อผู้สมัครมีสถานะการเป็นนักศึกษาแล้ว สามารถเข้าฟังบรรยายที่ห้องเรียน และใช้สื่อการถ่ายทอดสดและวิดีโอย้อนหลังได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เนื่องจากค่าสมัครและลงทะเบียนเรียนครอบคลุมสิทธิ์การใช้งานแล้ว ยกเว้น สื่อประเภท หนังสือเรียน/ตำราเรียน และวิดีโอบรรยายสรุปการสอนจากสำนักเทคโนโลยีการศึกษา นักศึกษาต้องจัดซื้อด้วยตนเอง จะซื้อหรือไม่ก็ได้ ไม่บังคับ
ใน 1 ภาคเรียน นักศึกษาจะต้องเข้าสอบไล่ปลายภาค 1 ครั้ง (หากในการสอบไล่มีวิชาที่สอบตก มีโอกาสสอบซ่อม 1 ครั้ง ช่วงกลางภาคเรียนถัดไป) โดยนักศึกษาสามารถดูกำหนดช่วงการสอบได้จาก “ปฏิทินการศึกษา” ในทุกๆภาคเรียน นักศึกษาส่วนกลาง สอบไล่ปลายภาค, สอบซ่อม ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และวิทยาเขตบางนา กรุงเทพมหานครเท่านั้น
นักศึกษาส่วนภูมิภาค สอบไล่ปลายภาค, สอบซ่อม ที่ศูนย์สอบต่างๆ ทั่วประเทศ(ยกเว้นกรุงเทพ) ดูรายชื่อศูนย์สอบ คลิกที่นี่
นักศึกษาส่วนกลาง (ภาคปกติและพรีดีกรี)

ค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระในการลงทะเบียนเรียน ประกอบด้วย
(1) ค่าบำรุงการศึกษา นศ.ภาคปกติ 800 บาท / พรีดีกรี 500 บาท
(2) ค่าบริการสารสนเทศ 100 บาท
(3) ค่าหน่วยกิต ภาคปกติ หน่วยละ 25 บาท / พรีดีกรี หน่วยละ 50 บาท
ถ้าลงทะเบียนเรียนหลายวิชา ก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
สรุป ภาคเรียนต่อ ๆ ไป จะมีค่าใชัจ่าย 1,125 – 1,450 บาท สำหรับภาคปกติ และ ค่าใช้จ่าย 1,050-1,700 บาท สำหรับพรีดีกรี

นักศึกษาส่วนภูมิภาค (ภาคปกติและพรีดีกรี)

ค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระในการลงทะเบียนเรียน ประกอบด้วย
(1) ค่าบำรุงการศึกษา 600 บาท / พรีดีกรี 300 บาท
(2) ค่าบริการสารสนเทศ 100 บาท
(3) ค่าหน่วยกิต หน่วยละ 50 บาท ทั้งภาคปกติและพรีดีกรี
(4) ค่าธรรมการสอบ วิชาละ 60 บาท
ถ้าลงทะเบียนเรียนหลายวิชา ก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
สรุป ภาคเรียนต่อ ๆ ไป จะมีค่าใชัจ่าย 1,330-2,700 บาท สำหรับภาคปกติ และ ค่าใช้จ่าย 1,030-2,320 บาท สำหรับพรีดีกรี

ค่าใช้จ่ายที่ชำระในการสมัคร ไม่รวมค่าหนังสือ/ตำราเรียน ดังนั้นหากนักศึกษาต้องการ จะต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยตนเอง

ราคาหนังสือ

ตรวจสอบราคาหนังสือ/ตำราเรียนของมหาวิสามารถตรวจสอบราคาหนังสือแต่ละเล่มได้ที่เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ ม.ร. http://www.rupress.ru.ac.th/bookstore/ และทำการค้นหาชื่อหนังสือตามรหัสวิชาตามที่ต้องการ

ช่องทางการสั่งซื้อหนังสือ
  • สั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ http://www.rupress.ru.ac.th/bookstore/ 
    (ใช้เวลาการจัดส่งประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้น)
  • ซื้อด้วยตนเองได้ที่ ศูนย์หนังสือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาคารสำนักพิมพ์ ชั้น 3 ม.รามคำแหง หัวหมาก(รามฯ 1)
    เปิดบริการในวัน จันทร์-ศุกร์ 9.00-15.30 น. และบางเสาร์-อาทิตย์ 9.00-15.00 น.
    ดูวันเปิดจำหน่ายของศูนย์หนังสือ คลิก